หลังฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก ตาไม่เท่ากัน เกิดจากอะไร มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน!!
เกิดอะไรขึ้น! 🔴 หลังจากรับบริการโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ลดเลือนริ้วรอย Upper Face หรือบริเวณ หน้าผาก ระหว่างคิ้ว ตีนกา ใต้ตา รอยย่นจมูก ผ่านไป 1 วัน เกิดปัญหาหนังตาตก ตาไม่เท่ากัน … มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน!!
ต้องอธิบายก่อนว่า…กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเราเชื่อมโยงถึงกันทั้งหมด หากฉีดแล้วเกิดหนังตาตกหรือเรียกว่า 📌 ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงชั่วคราวเนื่องจากตัวยาที่เรารู้จักกันในนาม “โบท็อกซ์”
“โบท็อกซ์” มีหน้าที่ยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อเราฉีดลดริ้วบริเวณรอบๆ ดวงตาและหน้าผาก มีโอกาสที่ตัวยากระจายตัวเป็นวงกว้าง เข้าไปบริเวณเบ้าตาทำให้กล้ามเนื้อที่ใช้ควบคุมการยกเปลือกตา ควบคุมการกะพริบตาหยุดการทำงาน หรือทำงานได้ไม่เหมือนเดิม
เรื่องนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่สามารถเกิดขึ้นได้! 💉 ตัวยาหรือยี่ห้อที่ใช้ฉีดอาจมีคุณสมบัติกระจายตัวเป็นวงกว้าง ไม่ได้อยู่แค่ในจุดที่ฉีด ซึ่งแพทย์ผู้ทำการฉีดต้องประเมินให้ดี, คุณหมอฉีดผิดตำแหน่ง หรือฉีดใกล้กล้ามเนื้อที่ควบคุมการยกของเปลือกตามากเกินไป, คุณหมอฉีดปริมาณมากจนเกินไป ผสมน้ำเกลือมากเกินไป ดันยาแรงเกินไป ทำให้ยาไหลไปที่จุดอื่น หรือการปฏิบัติตัวของคนไข้เอง โดยปกติหลังฉีดจะแนะนำห้ามนอนราบ ให้นั่งหรือนอนยกหัวสูง ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
อย่าเพิ่งกลัว หรือกังวลไป 🤔 ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่เกิดขึ้นเป็นเพียงอาการชั่วคราว ✅ สามารถหายได้เอง แต่ต้องใช้ระยะเวลาจนกว่าตัวยาค่อยๆ หมดฤทธิ์ประมาณ 4-6 สัปดาห์ อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นจนกลับมาเป็นปกติ
ใครที่กังวลมากๆ สามารถประคบอุ่น ประคบร้อน ช่วยทำลายการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ให้หายไปไวๆ หรือในบางเคสอาจจะคุณหมอประเมิน จ่ายยาหยอดตาที่ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อเปิดเปลือกตาทำงานได้มากขึ้นนั่นเอง
📣📣 Tip ที่ควรรู้ : อาการปกติที่เกิดขึ้นได้หลังรับบริการโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะการฉีดบริเวณหน้าผาก ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์และกล้ามเนื้อเริ่มปรับตัว ทำให้รู้สึกหนักบริเวณหนังตาเล็กน้อย ถ้าเกิดอาการนี้ไม่ต้องกังวลไป อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นใน 2-3 สัปดาห์
✨ Attitude Clinic เผยความงามในแบบคุณ ✨
คลิก! ดูรีวิวการรักษาเพิ่มเติม
พิเศษ! สำหรับลูกค้าแอททิจูด คลินิก ทุกท่าน 💙 📲 สามารถเช็กข้อมูลและรายละเอียดคอร์สการรักษาและสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมั้ย ได้ที่
คลิกเลย! attitude.clinic